พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้
“นายจ้าง” หมายความว่า
ผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างเข้าทำงานโดยจ่ายค่าจ้างให้และหมายความรวมถึง
(1)
ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนนายจ้าง
(2)
ในกรณีที่นายจ้างเป็นนิติบุคคลให้หมายความรวมถึงผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลและผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลให้ทำการแทนด้วย
หมายเหตุ
นายจ้างตัวจริง
หมายถึง ผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างเข้าทำงานโดยจ่ายค่าจ้างให้
อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ เช่น นายสมชาย บริษัทจำกัด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด
นายจ้างตัวแทน
หมายถึง ผู้มีอำนาจกระทำแทนนิติบุคคล เช่น กรรมการผู้จัดการ, หุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นต้น (มาตรา 5 (1))
นายจ้างรับมอบ
หมายถึง
ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนนายจ้างตัวจริงหรือได้รับมอบหมายให้ทำการแทนนายจ้างตัวแทน
(มาตรา 5 (2))
ฎีกาที่ 1856/2561
จำเลยจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในประเทศไทย ส่วนบริษัท อ.
มีภูมิลำเนาและจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในประเทศสิงคโปร์ จำเลยกับบริษัท อ.
จึงมีฐานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน แม้จำเลยกับบริษัท อ. มี ป.
เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยกับบริษัท อ. กับมีบริษัท ฮ.
เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทจำเลย และบริษัท อ. ก็ไม่ทำให้จำเลยกลายเป็นสำนักงานสาขาของบริษัท
อ.
ไปได้เพราะในทางนิตินัยกฎหมายบัญญัติให้ผู้ถือหุ้นกับนิติบุคคลนั้นแยกออกต่างหากจากกัน
โจทก์ยอมรับว่าทำสัญญาจ้างกันในนามของบริษัท อ. ส่วนจำเลยไม่ได้ร่วมลงชื่อเป็นคู่สัญญาด้วย
ทั้งการที่โจทก์มาทำงานกับจำเลยในประเทศไทย เป็นการมาทำงานตามคำสั่งของบริษัท อ. ส่วนการที่จำเลยเป็นผู้ติดต่อขอใบอนุญาตทำงานให้แก่โจทก์
การหักภาษี ณ ที่จ่าย และการหักเงินประกันสังคมก็ดี
ล้วนแต่เป็นการดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ
ให้โจทก์สามารถทำงานในประเทศไทยได้เท่านั้น พฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานใด
ๆ แทนบริษัท อ. ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 5
เมื่อจำเลยไม่ใช่นายจ้างโจทก์แล้ว ไม่จำต้องจ่ายค่าชดเชย
ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์
0 ความคิดเห็น